analyticstracking
ผลสำรวจเรื่อง “คนไทยคิดอย่างไรกับโอกาสในการเป็นเจ้าของธุรกิจ ในยุคโควิด-19 (ครั้งที่2) ”
           ประชาชนเห็นโอกาสสำหรับการริเริ่มธุรกิจในอนาคตลดลงจากการสำรวจช่วงปลายปี 2564
    จาก ร้อยละ 50.3 เหลือร้อยละ 46.0
            ขณะที่ระบุว่าไม่อยากลงทุนทำธุรกิจเพราะกลัวความล้มเหลว มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 60.8
    เป็นร้อยละ 62.3
            ทั้งนี้เหตุผลหลักที่ไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองคือ กลัวว่าทำแล้วจะเกิดสถานการณ์ไม่คาดฝัน
    เช่น โรคระบาด และภัยธรรมชาติ
 
 
 
ดีมาก (5)
ดี (4)
ปานกลาง (3)
พอใช้ (2)
แย่ (1)
 
 
                  กรุงเทพโพลล์ร่วมกับคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความเห็นประชาชนเรื่อง “คนไทยคิดอย่างไรกับโอกาส
ในการเป็นเจ้าของธุรกิจ ในยุคโควิด-19 (ครั้งที่ 2)”
โดยเก็บข้อมูลจากประชาชน
ทั่วประเทศ จำนวน 1,154 คน เมื่อวันที่ 15-21 กุมภาพันธ์ 2565 พบว่า
 
                  จากการสำรวจความเห็นเกี่ยวกับจิตวิญญาณของการเป็นผู้
ประกอบการ (เจ้าของธุรกิจ) ครั้งที่ 2 โดยได้ทำการเปรียบเทียบกับการสำรวจ
ครั้งที่ 1 (ช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. 2564) ในประเด็นต่างๆ พบว่าประชาชนเห็น
โอกาสหรือความพร้อมสำหรับการริเริ่มธุรกิจในอนาคต ร้อยละ 46.0 (โดยลดลง
จากการสำรวจครั้งที่ 1 ร้อยละ 4.3)
รองลงมาเห็นว่าตนเองมีความตั้งใจที่จะประกอบ
ธุรกิจ ในอนาคตข้างหน้า ร้อยละ 42.3 (ลดลง ร้อยละ 2.0) เห็นว่าตนเองมีความรู้ความ
สามารถรวมถึง ทักษะและประสบการณ์ที่จำเป็นในการที่จะเริ่มทำธุรกิจใหม่ ร้อยละ 39.9
(ลดลงร้อยละ 7.7) เห็นว่าตนเองรู้จักผู้ประกอบการหรือมีเครือข่ายที่สามารถสนับสนุน
ในการริเริ่มธุรกิจ (ลดลงร้อยละ 4.2) และคิดว่าการเริ่มต้นธุรกิจใหม่เป็นสิ่งที่ง่ายใน
สถานการณ์ขณะนี้ (ลดลงร้อยละ 2.3) ขณะที่เห็นว่าไม่อยากลงทุนทำธุรกิจเพราะกลัว
ความล้มเหลวร้อยละ 62.3 (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.5)
 
                  ทั้งนี้สาเหตุที่ไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองมากที่สุดคือ กลัวว่าทำแล้วเกิดสถานการณ์ไม่คาดฝัน
เช่น โรคระบาด ภัยธรรมชาติ ร้อยละ 44.2
รองลงมาคือ ไม่มีเงินทุนมากพอ ร้อยละ 43.8 และกลัวล้มเหลว กลัวขาดทุน
ร้อยละ 35.4
 
 
                  โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
 
             1. ประเด็นคำถามเกี่ยวกับจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ (เจ้าของธุรกิจ)

คำถาม
ครั้งที่ 2
(มี.ค.65)
ครั้งที่ 1
(ธ.ค.64)
เพิ่มขึ้น/
ลดลง
ร้อยละ
ร้อยละ
ร้อยละ
ท่านเห็นโอกาสหรือความพร้อมสำหรับการริเริ่มธุรกิจในอนาคต
46.0
50.3
-4.3
ท่านมีความตั้งใจที่จะประกอบธุรกิจ ในอนาคตข้างหน้า
42.3
44.3
-2.0
ตัวท่านมีความรู้ความสามารถรวมถึงทักษะและประสบการณ์ที่จำเป็นใน
การที่จะเริ่มทำธุรกิจใหม่
39.9
47.6
-7.7
รู้จักผู้ประกอบการหรือมีเครือข่ายที่สามารถสนับสนุนในการริเริ่มธุรกิจ
37.5
41.7
-4.2
คิดว่าการเริ่มต้นธุรกิจใหม่เป็นสิ่งที่ง่ายในสถานการณ์ขณะนี้
9.2
11.5
-2.3
ไม่อยากลงทุนทำธุรกิจเพราะกลัวความล้มเหลว
62.3
60.8
+1.5
 
 
             2. สาเหตุที่ท่านไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจของตัวท่านเอง (สามารถเลือกตอบได้มากกว่า1 ข้อ)

 
ร้อยละ
กลัวทำแล้วเกิดสถานการณ์ไม่คาดฝัน เช่น เกิดโรคระบาด ภัยธรรมชาติ
44.2
ไม่มีเงินทุนมากพอ
43.8
กลัวล้มเหลว กลัวขาดทุน
35.4
ขาดความรู้ ความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจ
35.1
คิดว่างานที่ทำอยู่มั่นคงแล้ว เลี้ยงตัวเองได้แล้ว
33.9
หากไม่สำเร็จกลัวคนในครอบครัวจะเดือดร้อน ต้องแบกภาระหนี้ร่วมกัน
25.9
คิดว่าสายเกินไปที่จะเริ่มต้นใหม่
23.3
ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำธุรกิจอะไรดี
21.5
กลัวการเริ่มต้นว่าจะทำไม่ได้
11.9
อื่นๆ อาทิ สุขภาพไม่ดี คนไม่มีกำลังซื้อ ฯลฯ
4.1
 
 
รายละเอียดการสำรวจ
วัตถุประสงค์การสำรวจ:
                  เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับจิตวิญญาณความเป็นผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจของ
คนไทย ครั้งที่ 2 ในประเด็นต่างๆ รวมถึงเหตุผลที่ทำให้ไม่กล้าเริ่มธุรกิจเป็นของตนเอง ทั้งนี้เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็น
ของประชาชนให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ
 
ประชากรที่สนใจศึกษา:
                  การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนัก
ด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
 
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error):
                  ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน  3 ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
 
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล:
                  ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (Enumeration by telephone) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็น
แบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอนประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นจึงนำแบบสอบถาม
ทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล:  : 15 - 21 กุมภาพันธ์ 2565
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ: 5 มีนาคม 2565
 
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
 
จำนวน
ร้อยละ
เพศ:
   
             ชาย
599
51.9
             หญิง
555
48.1
รวม
1,154
100.0
อายุ:
 
 
             18 – 30 ปี
93
8.1
             31 – 40 ปี
148
12.8
             41 – 50 ปี
311
26.9
             51 – 60 ปี
321
27.8
             61 ปีขึ้นไป
281
24.4
รวม
1,154
100.0
การศึกษา:
 
 
             ต่ำกว่าปริญญาตรี
682
59.1
             ปริญญาตรี
363
31.5
             สูงกว่าปริญญาตรี
109
9.4
รวม
1,154
100.0
อาชีพ:
   
             ลูกจ้างรัฐบาล
156
13.5
             ลูกจ้างเอกชน
232
20.1
             ค้าขาย/ ทำงานส่วนตัว/ เกษตรกร
455
39.4
             เจ้าของกิจการ/ นายจ้าง
50
4.3
             ทำงานให้ครอบครัว
4
0.4
             พ่อบ้าน / แม่บ้าน / เกษียณอายุ
210
18.2
             นักเรียน/ นักศึกษา
16
1.4
             ว่างงาน
31
2.7
รวม
1,154
100.0
 
ติดตามกรุงเทพโพลล์ผ่าน twitter ได้ที่  twitter bangkokpoll
Download PDF file:  
 
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)    โทร. 02-407-3888 ต่อ 2897,2898